ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กิเลส"
หน้าตา
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Tapranksan (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
(ไม่แสดง 46 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 28 คน) | |||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{พุทธศาสนา}} |
{{พุทธศาสนา}} |
||
'''กิเลส''' ({{lang-pi|กิเลส}}; {{lang-sa|क्लेश}} ''เกฺลศ'') หมายถึง สภาพที่ทำให้[[จิต]]เศร้าหมอง<ref>พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต), [http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=318 กิเลส 10], พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม</ref> |
|||
'''กิเลส''' แปลว่า ''สิ่งเกาะติด'' ''สิ่งเปรอะเปื้อน'' ''สิ่งสกปรก'' |
|||
กิเลสมี 3 ระดับ คือได้แก่ |
|||
'''กิเลส''' คือ สิ่งที่แฝงติดอยู่ในใจแล้วทำให้ใจเศร้าหมองขุ่นมัว มีอุปมาเหมือนสีที่ใส่ลงไปในน้ำทำให้น้ำมีสีเหมือนสีที่ใส่ลงไป ใจก็เช่นกัน ปกติก็ใสสะอาด แต่กลายเป็นใจดำ ใจง่าย ใจร้ายก็เพราะมีกิเลสเข้าไปอิงอาศัยผสมปนเปอยู่ |
|||
* [[อนุสัย]]กิเลส (Latent Defilements) กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน |
|||
* ปริยุฏฐานกิเลส (Internally Active Defilements) กิเลสอย่างกลางคือกิเลสที่เกิดขึ้นจากการปรุงแต่งทางความคิด ได้แก่ กิเลสประเภท[[นิวรณ์]] 5 |
|||
* วีติกกมกิเลส (Externally Active Defilements) กิเลสอย่างหยาบคือกิเลสที่ทะลักออกมาทำให้สัตว์สร้างกรรมขึ้นมาทางกายและวาจา |
|||
กิเลสอย่างละเอียด สงบได้ด้วยปัญญา,กิเลสอย่างกลาง สงบได้ด้วยสมาธิ,กิเลสอย่างหยาบ สงบได้ด้วยศีล |
|||
กิเลสที่ชอบซุกหมักหมมอยู่ในใจคนมากที่สุด คือ [[ราคะ]] [[โลภะ]] [[โทสะ]] [[โมหะ]] เพราะกิเลสชอบซุกหมักหมมอยู่ในใจของคน จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า '''กิเลสาสวะ''' หรือ [[อาสวกิเลส]] แปลว่า กิเลสที่หมักดองอยู่ในจิต |
|||
== วจนัตถะ == |
|||
==ประเภทของกิเลส== |
|||
'''กิเลเสนฺติ อุปตาเปนฺตีติ = กิเลสา''' แปลว่า ธรรมชาติใดย่อมทำให้เร่าร้อน เศร้าหมอง ธรรมชาตินั้นชื่อว่า '''กิเลส''' |
|||
#'''อโนตตัปปะ''' ความไม่รู้สึกตื่นกลัวต่อการทุจริต |
|||
#'''โทสะ''' ความโมโห โกรธ ความไม่พอใจ |
|||
#'''โมหะ''' ความหลงใหล ความโง่ |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
#'''วิจิกิจฉา''' ความเคลือบแคลงใจ สงสัย ไม่แน่ใจ ลังเลใจ ในสิ่งที่ควรเชื่อ |
|||
#'''โลภะ''' ความพอใจ ชอบพอ เต็มใจ ในโลกียอารมณ์ต่างๆ |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
'''กิลิสฺสติ เอเตหีติ = กิเลสา''' แปลว่า สัมปยุตธรรม คือ จิต [[เจตสิก]] ย่อมเศร้าหมอง เร่าร้อน ด้วยธรรมชาติใด ฉะนั้นธรรมชาติที่เป็นเหตุแห่งความเศร้าหมองเร่าร้อนของสัมปยุตนั้น จึงชื่อว่า '''กิเลส''' |
|||
==ดูเพิ่ม== |
|||
* [[อุปกิเลส]] |
|||
== กิเลสวัตถุ == |
|||
⚫ | |||
ใน[[วิภังคปกรณ์]]ระบุว่า กิเลสวัตถุ 10 ได้แก่<ref>[http://www.84000.org/tipitaka/read/?35/1026/528 ทสกนิเทศ], พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒ วิภังคปกรณ์</ref> |
|||
⚫ | |||
# [[โลภะ]] ความอยากได้ในสิ่งของ เงินทอง ทรัพย์สิน ที่ดินหรือลาภอื่นๆที่ไม่ใช่ของๆตน |
|||
# [[โทสะ]] ความคิดประทุษร้าย ทำลาย |
|||
# [[โมหะ]] ความหลง มัวเมา |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
# [[วิจิกิจฉา]] ความลังเลสงสัย |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
# [[อโนตตัปปะ]] ความไม่เกรงกลัวบาป |
|||
⚫ | |||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
|||
⚫ | |||
* [http://www.onlineworldtraveler.com/thailand/th/thai-buddha/Temple-Tours.html สถานที่ปฏิบัติธรรม] |
|||
* แนบ มหานีรานนท์ "อภิธรรมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๗ สมุจจยสังคหวิภาค" |
|||
{{รายการอ้างอิง}} |
|||
[[หมวดหมู่:กิเลส| ]] |
[[หมวดหมู่:กิเลส| ]] |
||
[[หมวดหมู่: |
[[หมวดหมู่:คำศัพท์ศาสนาพุทธ]] |
||
{{โครงศาสนา}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:40, 19 ธันวาคม 2566
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
กิเลส (บาลี: กิเลส; สันสกฤต: क्लेश เกฺลศ) หมายถึง สภาพที่ทำให้จิตเศร้าหมอง[1]
กิเลสมี 3 ระดับ คือได้แก่
- อนุสัยกิเลส (Latent Defilements) กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน
- ปริยุฏฐานกิเลส (Internally Active Defilements) กิเลสอย่างกลางคือกิเลสที่เกิดขึ้นจากการปรุงแต่งทางความคิด ได้แก่ กิเลสประเภทนิวรณ์ 5
- วีติกกมกิเลส (Externally Active Defilements) กิเลสอย่างหยาบคือกิเลสที่ทะลักออกมาทำให้สัตว์สร้างกรรมขึ้นมาทางกายและวาจา
กิเลสอย่างละเอียด สงบได้ด้วยปัญญา,กิเลสอย่างกลาง สงบได้ด้วยสมาธิ,กิเลสอย่างหยาบ สงบได้ด้วยศีล
วจนัตถะ
กิเลเสนฺติ อุปตาเปนฺตีติ = กิเลสา แปลว่า ธรรมชาติใดย่อมทำให้เร่าร้อน เศร้าหมอง ธรรมชาตินั้นชื่อว่า กิเลส
กิลิสฺสติ เอเตหีติ = กิเลสา แปลว่า สัมปยุตธรรม คือ จิต เจตสิก ย่อมเศร้าหมอง เร่าร้อน ด้วยธรรมชาติใด ฉะนั้นธรรมชาติที่เป็นเหตุแห่งความเศร้าหมองเร่าร้อนของสัมปยุตนั้น จึงชื่อว่า กิเลส
กิเลสวัตถุ
ในวิภังคปกรณ์ระบุว่า กิเลสวัตถุ 10 ได้แก่[2]
- โลภะ ความอยากได้ในสิ่งของ เงินทอง ทรัพย์สิน ที่ดินหรือลาภอื่นๆที่ไม่ใช่ของๆตน
- โทสะ ความคิดประทุษร้าย ทำลาย
- โมหะ ความหลง มัวเมา
- มานะ ความถือตัว
- ทิฏฐิ ความเห็นผิด
- วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย
- ถีนะ ความหดหู่
- อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน
- อหิริกะ ความไม่ละอายบาป
- อโนตตัปปะ ความไม่เกรงกลัวบาป
อ้างอิง
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช), พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด
- แนบ มหานีรานนท์ "อภิธรรมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๗ สมุจจยสังคหวิภาค"